Skip to main content
หัวข้อ

การป้องกันการข่มเหงรังแก

การข่มเหงรังแกคืออะไร?

การข่มเหงรังแกสามารถจำกัดความได้หลายรูปแบบ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะหมายถึงพฤติกรรมที่มีการกำหนดเป้าหมายและกระทำซ้ำ ๆ ด้วยเจตนาที่จะก่อให้เกิดความเสียหายทางร่างกาย สังคมและ/หรือจิตใจ  โดยพฤติกรรมดังกล่าวสามารถดำเนินการทั้งทางออนไลน์หรือออฟไลน์โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้อำนาจหรือสิ่งที่คิดว่าเป็นอำนาจของตนในทางที่ผิดต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นที่รู้สึกว่าไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำนั้นได้

เราตระหนักดีว่าการข่มเหงรังแกอาจก่อให้เกิดความทุกข์ต่อผู้คน และเราไม่ยอมรับสิ่งนี้บนแพลตฟอร์มของเรา  TikTok เป็นชุมชนระดับโลกที่เติบโตด้วยความคิดสร้างสรรค์และการแสดงออกของสมาชิก การที่ผู้คนรู้สึกปลอดภัยในการแสดงออกบนแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกข่มเหงรังแกหรือคุกคามจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก

การระบุพฤติกรรมข่มเหงรังแก

พฤติกรรมข่มเหงรังแกที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใช้ในการข่มขู่ เหยียดหยาม หรือลดทอนอำนาจผู้อื่นมีหลายรูปแบบ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบทั่วไปของการข่มเหงรังแก.

คุณทราบหรือไม่

  • การข่มเหงรังแกส่งผลกระทบต่อผู้กระทำ ผู้ที่ถูกกระทำ และแม้แต่ผู้ที่เป็นพยานรู้เห็นการข่มเหงรังแก
  • ผู้มุงดูหรือเห็นเหตุการณ์การข่มเหงรังแก สามารถมีบทบาทสำคัญในการหยุดยั้งพฤติกรรมการข่มเหงรังแก
  • การที่ผู้คนจะถูกข่มเหงรังแกโดยบุคคลที่รู้จัก (เช่น เพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อน เพื่อนร่วมงาน) เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย
  • การข่มเหงรังแกสามารถเกิดขึ้นได้ในเกือบทุกสภาพแวดล้อมทางสังคม รวมถึงในโรงเรียน ทางออนไลน์ ในสนามเด็กเล่น และที่ทำงาน
  • บุคคลที่ถูกข่มเหงรังแกสามารถเป็นผู้ข่มเหงรังแกผู้อื่นได้ โดยผู้ที่กระทำเช่นนี้มักข่มขู่ผู้อื่นเพื่อที่จะเรียกคืนความรู้สึกมีอำนาจหรือความสามารถในการควบคุมที่สูญเสียไปในด้านอื่นของชีวิต

การป้องกันการข่มเหงรังแก

มีหลายวิธีที่ TikTok กระตุ้นให้ผู้ใช้งานมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันผ่านคอมเมนต์ ข้อความโดยตรง แชทสด ดูเอ็ท สติชและอื่นๆ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้ชุมชนออนไลน์น่าดึงดูดใจ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อปฏิสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายเฉกเช่นการสื่อสารทุกที่ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมชุมชนที่อบอุ่นและพร้อมให้การสนับสนุน เรามีการตั้งค่าแอปต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมประสบการณ์ TikTok ของพวกเขา  โดยการตั้งค่าเหล่านี้อาจแตกต่างกันตามภูมิภาคและรุ่นของแอป

บัญชีใช้งานส่วนตัว

ค่าตั้งต้นสำหรับบัญชีใช้งานของผู้ใช้งานที่อายุน้อยกว่า 16 ปีจะถูกตั้งค่าเป็นส่วนตัวไว้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถอนุมัติหรือปฏิเสธคำขอเป็นผู้ติดตาม และมีเพียงผู้ใช้งานที่คุณอนุมัติให้เป็นผู้ติดตามที่จะสามารถดูคอนเทนต์ของคุณได้ บัญชีใช้งานของผู้ใช้งานที่มีอายุมากกว่า 16 ปีจะถูกตั้งค่าเป็นสาธารณะไว้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งาน TikTok ใดๆ สามารถดูวิดีโอของคุณและโพสต์คอมเมนต์หรือเริ่มการดูเอ็ทเพื่อมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ที่คุณสร้างและแชร์ไว้ โดยคุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าวได้อย่างง่ายดายในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณ   เรียนรู้เพิ่มเติม

ควบคุมผู้ที่สามารถส่งข้อความถึงคุณ

ข้อความโดยตรง (DMs) เป็นวิธีการให้สมาชิกชุมชนสามารถสื่อสารกันแบบส่วนตัว ข้อความโดยตรง  สามารถถูกส่งและรับจาก “ทุกคน” “เพื่อน” (ผู้สร้างที่คุณติดตาม ซึ่งติดตามคุณเช่นกัน) หรือ “ไม่มีใคร”   ผู้ที่สามารถใช้งานการส่งข้อความโดยตรงจำกัดเฉพาะบัญชีใช้งานที่ลงทะเบียนว่ามีอายุ 16 ปีขึ้นไป และเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ปกครองสามารถควบคุมได้โดยตรงเมื่อเปิดใช้การแนะนำโดยผู้ปกครอง เรียนรู้เพิ่มเติม

ใครสามารถดูเอ็ทและสติชกับคุณ

การดูเอ็ทเป็นวิธีที่สนุกสนานในการค้นพบความคิดสร้างสรรค์ของคุณ และคุณสามารถเลือกได้ว่าใครสามารถดูเอ็ทกับคุณ โดยคุณสามารถเลือกการตั้งค่าแบบหนึ่งสำหรับวิดีโอทั้งหมดของคุณหรือเลือกการตั้งค่าเฉพาะในแต่ละวิดีโอ 

หากคุณอายุน้อยกว่า 16 ปี ในการตั้งค่าคุณจะเห็นว่าข้อนี้ถูกตั้งค่าเป็น ‘ฉันเท่านั้น’  จะมีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถดูเอ็ทหรือสติชกับวิดีโอของคุณเอง การตั้งค่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากคุณอายุ 16 หรือ 17 ปีในการตั้งค่าคุณจะเห็นฟีเจอร์นี้ถูกตั้งค่าเป็น ‘เพื่อน’  คุณสามารถเปลี่ยนข้อนี้เป็น ‘ฉันเท่านั้น’ หรือ ‘ทุกคน’ ตามความต้องการของคุณ  เรียนรู้เพิ่มเติม

ใครสามารถคอมเมนต์ในวิดีโอของคุณ

หากคุณอายุน้อยกว่า 16 ปี ในการตั้งค่าคุณจะเห็นว่าข้อนี้ถูกตั้งค่าเป็น ‘เพื่อน’ ซึ่งหมายความว่ามีเฉพาะผู้ที่ติดตามคุณและผู้ที่คุณติดตามที่จะสามารถคอมเมนต์ในวิดีโอของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนข้อนี้เป็น ‘ฉันเท่านั้น’ เพื่อหยุดผู้ใช้งานรายอื่นจากการคอมเมนต์ในวิดีโอของคุณตามความต้องการของคุณ หากคุณอายุ 16 หรือ 17 ปีในการตั้งค่าคุณจะเห็นฟีเจอร์นี้ถูกตั้งค่าเป็น ‘ทุกคน’  คุณสามารถเปลี่ยนข้อนี้หากคุณต้องการจำกัดบุคคลที่สามารถจะคอมเมนต์ในวิดีโอของคุณ

คุณยังสามารถทำการลบคอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสมใด ๆ ที่โพสต์ในวิดีโอของคุณ เพียงแค่แตะบนคอมเมนต์นั้นและค้างไว้ แล้วเลือก “ลบออก”   เรียนรู้เพิ่มเติม

คัดกรองคอมเมนต์

เมื่อตัวคัดกรองคอมเมนต์ถูกเปิดใช้งาน คอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสมจะถูกซ่อนโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างรายการคำสำคัญที่คุณกำหนดเองเพื่อให้คอมเมนต์ที่ประกอบด้วยคำเหล่านั้นถูกซ่อนโดยอัตโนมัติเช่นกัน  และคุณสามารถกำหนดว่าใครสามารถคอมเมนต์ในวิดีโอของคุณโดยปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณ  เรียนรู้เพิ่มเติม

ลบผู้ติดตาม

คุณสามารถลบผู้ติดตามได้ทุกเมื่อ หรือบล็อกบัญชีใช้งานอย่างถาวรจากการดูคอนเทนต์ของคุณหรือส่งข้อความถึงคุณ  เรียนรู้เพิ่มเติม


การจัดการกับการข่มเหงรังแก

คุณสามารถได้รับการช่วยเหลือหากคุณรู้สึกว่ามีใครกำลังคุกคามคุณหรือทำตัวไม่เหมาะสม หากคุณประสบปัญหาการข่มเหงรังแกบนTikTok โปรดรายงานให้เราทราบเพื่อให้ทีมควบคุมของเราตรวจสอบและดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป หากพบการละเมิดหลักเกณฑ์ชุมชนของ TikTok


แหล่งข้อมูล

คุณอาจพบว่าแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมดังต่อไปนี้มีประโยชน์:

  • มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย:องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่เด็กและเยาวชน รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายและกลไกปกป้องเด็กทางออนไลน์
  • องค์กร ConnectSafely: องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มุ่งมั่นให้ความรู้แก่ผู้ใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อในด้านที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการป้องกัน
  • องค์กรค้นคว้าการข่มเหงรังแกทางไซเบอร์ Cyberbullying Research Center: เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการระบุตัวตน, การป้องกัน และกลยุทธ์ในการตอบสนองและการแก้ปัญหาสำหรับนักการศึกษา ที่ปรึกษา บุคคลากรสาธารณสุข ตำรวจ ผู้ปกครอง และเด็ก ๆ
  • เว็บไซต์หยุดการข่มเหงรังแก StopBullying.gov: เรียนรู้วิธีระบุการข่มเหงรังแกและยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งนี้อย่างปลอดภัย
  • องค์กร WiredSafety: องค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยแนะแนวทางและเครื่องมือช่วยเหลือให้เยาวชนทำการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในโลกของสื่อและเทคโนโลยี